วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ป้าหัวร้อน! ถูกล็อกล้อที่สนามบิน ขับทับ รปภ.ปางตาย ชนดะ 6 คันรวด


ป้าหัวร้อน! ถูกล็อกล้อที่สนามบิน ขับทับ รปภ.ปางตาย ชนดะ 6 คันรวด
เมื่อเวล 16.30 น. วันที่ 20 ส.ค. พ.ต.ท.ธงชัย บัวเงิน พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ รปภ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ว่า มีหญิงคนหนึ่งเกิดอาการไม่พอใจขับรถทับ รปภ.ประจำสนามบิน และลากไปตามถนน ก่อนไปชนรถยนต์ของผู้อื่นภายในสนามบินอีก 6 คันได้รับความเสียหาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเบื้องต้นและรุดไปตรวจสอบทันที


เจ้าหน้าที่ รปภ.ถูกขับทับอาการสาหัส
ที่เกิดเหตุเป็นถนนบริเวณด้านหน้าอาคารท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นจุดรับส่งผู้โดยสารช่วงประตู 4-5 พบรถกระบะ สีบรอนซ์เทายี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ทะเบียน กร 4459 เชียงใหม่ สภาพมีร่องรอยการเฉี่ยวชน ทำให้กันชนด้านหน้าได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังพบรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากการเฉี่ยวชนอีก 6 คัน


รถกระบะคันก่อเหตุ
ส่วนเจ้าของรถกระบะผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ช่วยกันสกัดไม่ให้หลบหนี ทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.ภัทรา บุญเฉลียว อายุ 69 ปี เป็นคนเชียงใหม่ ส่วนคนเจ็บเป็น รปภ. ชื่อ นายวัชระ สภาพใบหน้าถลอกเลือดไหล อาการสาหัส เนื่องจากถูกรถกระบะทับร่างและลากไปตามถนน เจ้าหน้าที่ได้นำส่งรักษาที่ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่เป็นการด่วน


เจ้าหน้าที่ช่วยกันสกัดจับ น.ส.ภัทรา ผู้ก่อเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.ภัทรา มาที่สนามบิน และจอดรถบริเวณจุดจอดรถชั่วคราวเพื่อรับส่งผู้โดยสารนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงถูกเจ้าหน้าที่ รปภ. ของสนามบิน ล็อกล้อไว้ ต่อมา น.ส.ภัทรา ออกมาพบว่ารถถูกล็อกล้อจึงไม่พอใจ และประสานกับเจ้าหน้าที่ รปภ. เพื่อทำการเสียค่าปรับตามกฎของสนามบินประมาณ 400 บาท


รถเก๋งเมอร์เซเดส-เบนซ์ถูกเฉี่ยวชนเสียหาย
หลังจากชำระเงินเสร็จ น.ส.ภัทราก็มาที่รถและแสดงใบเสร็จให้เจ้าหน้าที่ รปภ. นายวัชระ ซึ่งเป็น รปภ. จึงทำการปลดล็อกให้ ขณะที่ปลดล็อกเสร็จ ปรากฏว่า น.ส.ภัทรา ได้เหยียบคันเร่งขับรถออกไปทันที ทำให้ทับร่าง รปภ. และลากหน้าถูไปกับถนนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนพุ่งไปชนรถของประชาชนคนอื่นเสียหายถึง 6 คัน ในจำนวนนั้นมีรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ 1 คัน


เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก จึงมีการช่วยกันสกัด น.ส.ภัทรา ไว้ เมื่อ น.ส.ภัทรา ลงมาจากรถ ได้แสดงความไม่พอใจที่ถูกล็อกล้อ และต้องเสียค่าปรับ ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปยัง สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


Cr; https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1470192

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น